การดูแลผิวที่มีร่องรอยของแผลเป็น

xx วิธีดูแลรอยสิว ช่วยลดร่องรอยของแผลเป็นจากสิวอย่างถูกวิธี

ตรวจทานวันที่: 16.09.2021
5 นาทีที่อ่าน

สิว: คำที่น่ากลัวสำหรับวัยรุ่น หนึ่งในสภาพผิวที่พบได้บ่อยที่สุดจากทั่วโลกคือสิวหรือที่เรียกว่า ‘acne vulgaris’ ในภาษาละติน

เมื่อถึงจุดหนึ่ง เราหลายคนก็เป็นตุ่มสิว สิวหัวดำ หรือสิวหัวขาวตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ใบหน้า คอ หรือหลัง แม้จะดูแลอย่างเหมาะสม ผิวของเราก็มีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นที่มีต้นเหตุจากสิว

ช่วงแรกๆ คุณอาจจะรู้สึกว่าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากสิว แต่มีผลิตภัณฑ์ดูแลรอยแผลเป็นที่จะทำให้รอยเหล่านั้นดูจางลง ลองอ่านดูเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรอยแผลเป็นจากสิว วิธีป้องกัน และวิธีเอาชนะในท้ายที่สุด

  • การดูแลรอยแผลเป็นจากสิวอาจต้องใช้เวลาหลายเดือน
  • การรักษาผิวให้สะอาดและปราศจากสารที่เป็นน้ำมันสามารถช่วยป้องกันสิวรุนแรง
  • มีผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่รวมถึงผลิตภัณฑ์ตามใบสั่งแพทย์ที่ช่วยได้

 

ในบทความนี้ จะตอบคำถาม:

  • สิวคืออะไรและอะไรทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิว?
  • จะป้องกันรอยแผลเป็นจากสิวได้อย่างไร?
  • วิธีใดที่เป็นไปได้ในการแก้ปัญหาสำหรับรอยแผลเป็นจากสิว?

สิวคืออะไรและอะไรทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิว?

สิวเป็นหนึ่งในสภาพผิวที่พบได้ทั่วไป ในความเป็นจริง สิวเป็นหนึ่งในสามสภาพผิวที่สำคัญที่สุดและส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาวประมาณ 85%, โดยเฉพาะยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือ[1,2] การเกิดรอยแผลเป็นจากสิวมีสาเหตุจากกระบวนการสมานตัวเนื่องจากผิวซ่อมแซมตัวเอง

สิวแพร่กระจายเพิ่มมากขึ้น และชุมชนนักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงได้ อาจมาจากปัจจัยทางสภาพแวดล้อมหรือการเข้าสู่วัยแรกรุ่นเร็วขึ้น

สิวเกิดขึ้นได้อย่างไร

ง่ายๆ คือสิวเกิดจากไขมัน (น้ำมัน) ส่วนเกินในรูขุมขน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมสิวส่วนใหญ่จึงเกิดขึ้นบนใบหน้า คอ หน้าอกและหลังซึ่งมีต่อมไขมันและรูขุมขนอยู่หนาแน่น

การผลิตน้ำมันส่วนเกินเกิดจากฮอร์โมนซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมสิวจึงส่งผลต่อวัยรุ่นในช่วงที่ระดับฮอร์โมนพุ่งสูง ประเภทของผิวก็อาจเป็นตัวทำนายการเกิดสิวได้ เนื่องจากผิวมันตามธรรมชาติมีโอกาสที่จะเกิดสิวรุนแรงได้ โปรดทราบว่าสิวรุนแรงพบได้บ่อยในเด็กผู้ชายและผู้ชาย ไม่ใช่แค่ในเด็กผู้หญิงและผู้หญิง [3]

คาดว่าปัจจัยต่างๆ เช่น สุขอนามัยของผิวหนัง โภชนาการ (อาหาร เช่น ช็อคโกแล็ต), แสงแดดและความเครียดอาจเป็นสาเหตุการแพร่กระจายของสิว แต่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรือทางการแพทย์ที่จำกัดเพื่อสนับสนุนหรือหักล้างคำกล่าวอ้างเหล่านี้ [4]

การเกิดรอยแผลเป็นจากสิว

เมื่อสิวเริ่มหาย อาจเกิดรอยแผล ถ้าเป็นสิวอักเสบหรือสิวหัวช้าง (บวม แดง เจ็บปวด) อาจมีความเสี่ยงในการเกิดรอยแผลเป็นจากสิวเนื่องจากมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อเนื้อเยื่อลึก[5] จึงต้องจำไว้ว่ายิ่งทิ้งไว้นานกว่าจะแก้ปัญหาสิวอักเสบ ยิ่งมีความเสี่ยงในการเกิดรอยแผลเป็น

สำหรับรอยแผลเป็นจากสิวโดยทั่วไป ผู้ชายและผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเกิดรอยแผลเป็นไม่เหมือนกันทุกคน แต่พบว่าถ้าคุณมีสมาชิกในครอบครัวที่มีรอยแผลเป็นจากสิว คุณก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดรอยแผลเป็นจากสิว[2]

ส่วนใหญ่ (ประมาณ 90%) ของรอยแผลเป็นจากสิวเป็นแบบหลุม: รอยแผลเป็นแบบเป็นแอ่งบุ๋มที่เกิดจากการสูญเสียเส้นใยคอลลาเจนในเนื้อเยื่อที่อยู่ข้างใต้ผิวหนัง รอยแผลเป็นแบบหลุมมีรูปร่างต่างๆ เช่น Boxcar (หลุมกล่อง หลุมแผลกว้าง ขอบหลุมตั้งชัด), Ice Pick (หลุมแผลที่มีฐานแคบและลึก ขอบเขตชัด), Rolling (หลุมแผลโค้ง มีพังผืดเกาะใต้หลุมสิว เห็นเป็นแอ่ง ขอบมน) [6] และไม่แปลกที่จะมีมากกว่าหนึ่งประเภทในบริเวณที่ได้รบผลกระทบ

แม้จะพบได้ยาก แต่สิวก็สามารถทำให้เกิดรอยแผลเป็นแบบที่ไม่ปกติบางชนิดที่ได้แก่รอยแผลเป็นนูนและแบบคีลอยด์ ทราบกันว่าโทนสีผิวที่เข้มกว่าอาจมีผลต่อการเกิดรอยแผลเป็นประเภทนี้ และเกิดกับคนอเมริกาเชื้อสายแอฟริกันและคนเอเชียมากกว่าคนผิวขาว [7]

จะป้องกันรอยแผลเป็นจากสิวได้อย่างไร?

วิธีแรกเพื่อช่วยป้องกันรอยแผลเป็นจากสิวคือต้องจัดการสภาพผิว โปรดจำไว้ว่าสิวเกิดจากการผลิตน้ำมัน (ไข) ส่วนเกิน จึงอย่าทาผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมันที่ผิว ในการกำจัดสิว อาจทดลองยารักษาที่หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปก่อน เช่น เบนซิลเปอร์ออกไซด์ กรดซาลิไซลิก หรือกรดอัลฟาไฮดรอกซิล

ถ้ากำจัดสิวไม่ได้ ให้ปรึกษาแพทย์เวชปฏิบัติหรือแพทย์โรคผิวหนังซึ่งจะช่วยหาทางเลือกในการดูแลสิวได้ดีที่สุด

ท้ายที่สุดคือระหว่างสิวแพร่กระจาย ห้ามบีบ กด แคะตุ่มสิวเนื่องจากอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและการเกิดรอยแผลเป็น[6,8]

 

ระหว่างสิวแพร่กระจาย ห้ามบีบ กด แคะตุ่มสิวเนื่องจากอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและการเกิดรอยแผลเป็น

วิธีใดที่เป็นไปได้ในการแก้ปัญหาสำหรับรอยแผลเป็นจากสิว?

มีวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้หลายวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหารอยแผลเป็นจากสิวนับตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปที่หาซื้อได้ทันทีจนถึงยาที่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ เนื่องจากการดูแลรอยแผลเป็นจากสิวเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน การเลือกตัวเลือกที่เหมาะกับคุณและชีวิตประจำวันของคุณย่อมดีกว่า

ถ้าผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไปที่มีเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ใช้ไม่ได้ผล แพทย์หรือเภสัชกรสามารถจ่าย:

  • เรตินอยด์แบบทาเฉพาะที่
  • ยาปฏิชีวนะแบบทาเฉพาะที่หรือยาเม็ด
  • กรดอะซีลาอิก[9]

ตัวเลือกที่ไม่ใช่ยาอาจได้แก่ครีมลอกผิว, เครื่องมือกดสิวหรือการบำบัดด้วยโฟโตไดนามิก [9]

Mederma® เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประโยชน์ในการเริ่มดูแลผิวที่มีร่องรอยของแผลเป็นจากสิว สูตรที่ให้ผลดีสามประการซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Mederma® ช่วยลดเลือนร่องรอยของแผลเป็นให้แลดูจางลงจนคุณสังเกตเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงใน 14 วัน* (ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล) โดยการฟื้นฟูและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว [10].  

Mederma® Intense Scar Gel เจลช่วยลดร่องรอยแผลเป็นให้แลดูจางลงด้วยส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์

  • ช่วยบำรุงผิวที่มีร่องรอยของแผลเป็นให้แลดูจางลง จนคุณสังเกตเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลง
  • สูตรที่ให้ผลดีสามประการซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อแทรกซึมเข้าใต้ผิว
  • ใช้เพียงวันละครั้ง

ซื้อวันนี้

โดยสรุป

โปรดจำไว้ว่าการดูแลรอยแผลเป็นต้องการความมุ่งมั่นและความพยายาม รอยแผลเป็นจากสิวไม่ได้หายไปในคืนเดียวและอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือน การทำให้ผิวคงความสะอาดและปราศจากสารที่เป็นน้ำมันยังสามารถช่วยป้องกันสิวรุนแรงได้เป็นลำดับแรก ด้วยความอดทนและความตั้งใจ ความพยายามของคุณจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า

แหล่งอ้างอิง

คุณถูกใจบทความของเราหรือไม่ โปรดบอกฉันถ้าบทความนี้มีประโยชน์กับคุณ
กลับไปด้านบน